วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552
ความทรงจำผ่านตาที่ 3
ย้อนกลับไปก่อน "เส้น ก้อน แผ่น"อีก
ตอนเปิดเทอมขี้นปี 2 กันมาหมาดๆ
ทีมอาจารย์ตกลงกันว่าเราจะมีเวิร์คชอพเล็กๆ ที่ใช้เวลาครั้งละ 1 สัปดาห์
เป็นการเริ่มต้นสำหรับการเรียน Studio ชั้นปีที่ 2
เป็นการอุ่นเครื่อง เพื่อให้นักศึกษาได้ปรับตัวกับห้องเรียนใหม่ และเป็นการทำความรู้จักกันระหว่างผู้เรียนและผู้สอนด้วย
โดยที่หัวข้อของเวิร์คชอพต้องสัมพันธ์กับ theme "ความทรงจำ"
คำถามแรกสำหรับการคิดโจทย์คือ ความทรงจำของสถาปนิกต่างจากความทรงจำของคนที่ไม่ได้เป็นสถาปนิกหรือไม่อย่างไร
แล้วก็ได้คำตอบว่า เนื่องจากงานของสถาปนิกเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่มีความซับซ้อน
ดังนั้นนักเรียนสถาปัตย์จึงน่าจะฝึกฝนตนเองให้"มอง"สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวให้"เห็น"ในหลายๆ มิติ
และฝึกประสาทสัมผัสให้สามารถรับรู้และเชื่อมโยงประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส ให้เกิดเป็นความทรงจำพิเศษที่มีต่อสถานที่ต่างๆ ได้
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
เชียงใหม่ยังเต็มไปด้วยสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ก็เลยคิดว่า เราน่าจะไปสำรวจเมืองด้วยประสาทสัมผัสของเรา
เผื่อว่าจะได้"เห็น"เชียงใหม่อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
มีคนถามหลายคน ว่าทำไมต้องเป็น "The Third eye workshop"
คำตอบคือตอนที่ตั้งชื่อ
คนตั้งคิดถึงการ์ตูน "3 ตาปาฏิหาริย์" ของ อ.เทซึกะ โอซามุ นัดวาดมังงะที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคนหนึ่งของญึ่ปุ่น
"3 ตาปาฏิหาริย์"เล่าเรื่องของ ซาราคุ เคียวสุเกะเด็กน้อยจากชนเผ่า 3 ตาที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยมนุษย์ เคียวสุเกะปกปิดอำนาจของตัวเองเอาไว้ด้วยพลาสเตอร์กากบาท เมื่อใดที่พลาสเตอร์นี้หลุดออก พลังและความวุ่นวายปั่นป่วนจากอำนาจของตาที่3ก็จะตามมา
ก็เลยคิดว่าถ้าเปรียบนักเรียนสถาปัตย์เป็นชนเผ่า 3 ตาที่ยังมีพลาสเตอร์กากบาทแปะหน้าผากอยู่
ใครจะไปรู้ว่า วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อพลาสเตอร์หลุดออก เราจะได้เห็นอะไร....
เขียนมาตั้งยาว ที่จริงก็เป็นความพยายามตั้งชื่อเพื่อสร้างความแตกต่างน่ะค่ะ (แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่)
แต่ สำหรับคนที่ได้มาทำเวิร์คชอบในครั้งนั้นด้วยกัน
มาถึงตอนนี้ ถ้าคลิกเข้าไปดูรูป ก็คงได้ย้อนระลึกความทรงจำสมัยขึ้นปี 2 ใหม่ๆ
และได้เห็นว่าเราและความคิดของเรา เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนในรอบ 1 ปี(หรือใครว่าไม่เปลี่ยน)
ส่วนใครที่ไม่ได้ทำเวิร์คชอบครั้งนั้น จะแวะเข้าไปดูรูปเพื่อนๆ ก็ยินดีค่ะ
ความทรงจำที่วัดเกต
ความทรงจำที่กาดหลวง
ความทรงจำที่วัดพันเตาและวันเจดีย์หลวง
ตอนเปิดเทอมขี้นปี 2 กันมาหมาดๆ
ทีมอาจารย์ตกลงกันว่าเราจะมีเวิร์คชอพเล็กๆ ที่ใช้เวลาครั้งละ 1 สัปดาห์
เป็นการเริ่มต้นสำหรับการเรียน Studio ชั้นปีที่ 2
เป็นการอุ่นเครื่อง เพื่อให้นักศึกษาได้ปรับตัวกับห้องเรียนใหม่ และเป็นการทำความรู้จักกันระหว่างผู้เรียนและผู้สอนด้วย
โดยที่หัวข้อของเวิร์คชอพต้องสัมพันธ์กับ theme "ความทรงจำ"
คำถามแรกสำหรับการคิดโจทย์คือ ความทรงจำของสถาปนิกต่างจากความทรงจำของคนที่ไม่ได้เป็นสถาปนิกหรือไม่อย่างไร
แล้วก็ได้คำตอบว่า เนื่องจากงานของสถาปนิกเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมทางกายภาพที่มีความซับซ้อน
ดังนั้นนักเรียนสถาปัตย์จึงน่าจะฝึกฝนตนเองให้"มอง"สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวให้"เห็น"ในหลายๆ มิติ
และฝึกประสาทสัมผัสให้สามารถรับรู้และเชื่อมโยงประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น การมองเห็น การได้ยิน การสัมผัส ให้เกิดเป็นความทรงจำพิเศษที่มีต่อสถานที่ต่างๆ ได้
ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
เชียงใหม่ยังเต็มไปด้วยสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ก็เลยคิดว่า เราน่าจะไปสำรวจเมืองด้วยประสาทสัมผัสของเรา
เผื่อว่าจะได้"เห็น"เชียงใหม่อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
มีคนถามหลายคน ว่าทำไมต้องเป็น "The Third eye workshop"
คำตอบคือตอนที่ตั้งชื่อ
คนตั้งคิดถึงการ์ตูน "3 ตาปาฏิหาริย์" ของ อ.เทซึกะ โอซามุ นัดวาดมังงะที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคนหนึ่งของญึ่ปุ่น
"3 ตาปาฏิหาริย์"เล่าเรื่องของ ซาราคุ เคียวสุเกะเด็กน้อยจากชนเผ่า 3 ตาที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยมนุษย์ เคียวสุเกะปกปิดอำนาจของตัวเองเอาไว้ด้วยพลาสเตอร์กากบาท เมื่อใดที่พลาสเตอร์นี้หลุดออก พลังและความวุ่นวายปั่นป่วนจากอำนาจของตาที่3ก็จะตามมา
ก็เลยคิดว่าถ้าเปรียบนักเรียนสถาปัตย์เป็นชนเผ่า 3 ตาที่ยังมีพลาสเตอร์กากบาทแปะหน้าผากอยู่
ใครจะไปรู้ว่า วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อพลาสเตอร์หลุดออก เราจะได้เห็นอะไร....
เขียนมาตั้งยาว ที่จริงก็เป็นความพยายามตั้งชื่อเพื่อสร้างความแตกต่างน่ะค่ะ (แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่)
แต่ สำหรับคนที่ได้มาทำเวิร์คชอบในครั้งนั้นด้วยกัน
มาถึงตอนนี้ ถ้าคลิกเข้าไปดูรูป ก็คงได้ย้อนระลึกความทรงจำสมัยขึ้นปี 2 ใหม่ๆ
และได้เห็นว่าเราและความคิดของเรา เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนในรอบ 1 ปี(หรือใครว่าไม่เปลี่ยน)
ส่วนใครที่ไม่ได้ทำเวิร์คชอบครั้งนั้น จะแวะเข้าไปดูรูปเพื่อนๆ ก็ยินดีค่ะ
ความทรงจำที่วัดเกต
ความทรงจำที่กาดหลวง
ความทรงจำที่วัดพันเตาและวันเจดีย์หลวง
วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
เส้น ก้อน แผ่น
ช่วงนี้กำลังจัดการไฟล์ภาพต่างๆ ที่ถ่ายเก็บไว้ทั้งปี
ก็เลยมีภาพเก่าๆ มาแบ่งกันดูนิดหน่อย
ขอย้อนกลับไปตอนต้นภาคการศึกษาที่ 2/2551
Studio 2 มักจะเริ่มต้นภาคการศึกษาด้วยงานชิ้นเล็กๆ เพื่ออุ่นเครื่องทั้งอาจารย์และนักศึกษา
เราเริ่มต้นด้วยการย้อนกลับไปมององค์ประกอบพื้นฐานของสถาปัตยกรรม
ได้แก่ เส้น(line) ก้อน(pieces) แผ่น(plane)
และศึกษาว่าองค์ประกอบพื้นฐานเหล่านี้ สามารถก่อให้เกิด Architectonic Space ได้อย่างไร
เหมือนจะ"หมู"แต่ทุกคนที่ได้ลองทำดู ก็จะทราบว่า
โจทย์ทุกโจทย์มีความ "ง่าย" เท่าๆ กับความ "ยาก"
อยู่ที่มุมมองและความตั้งใจในการค้นหาคำตอบ
สำหรับงาน"เส้น" ไม่ได้ถ่ายเก็บไว้
เลยมีรูปให้ดูอยู่แค่ 2 ชิ้น
ได้แก่ ก้อน และ แผ่น
วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552
มิดเทอมโปรเจคท์ในวันที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะสิ้นปีการศึกษาแล้ว
ก่อนที่จะสิ้นเทอม
ขอเอารูปบรรยากาศ Mid-term project jury ที่ผ่านไปมาแปะให้ดูค่ะ
โจทย์ของงานกลางภาคชิ้นนี้คือให้สร้าง Architectural Composition เพื่อรองรับกิจกรรมทางวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการศึกษาที่ต่อเนื่องมาจาก Final โปรเจคท์ของเทอมที่แล้ว(สถาปัตยกรรมที่รองรับกิจกรรมของมนุษย์) และ warm up assignment ของเทอมนี้ที่ให้ศึกษาและทดลองการประกอบกันขององค์ประกอบพื้นฐานทางสถาปัตยกรรมที่กำหนดให้ ได้แก่ เส้น แผ่น ก้อน
ผลงานขั้นสุดท้าย แสดงให้เห็นถึงการพยายามทำความเข้าใจและการตีความความหมายของ"กิจกรรมทางวัฒนธรรม" ที่หลากหลาย ตั้งแต่ พื้นที่คิวรถสามล้อถีบ พื้นที่สำหรับกิจกรรมตักบาตรคืนเพ็ญพุธ จนถึงพื้นที่สำหรับพิธีกรรมเช่นพิธีสืบชะตา พิธีรดน้ำดำหัวในเทศกาลสงกรานต์ หลายๆ งานน่าตื่นเต้นทีเดียว หลายงานบอกว่าโปรดติดตามตอนต่อไป และอีกบางงานที่ขอเอาใจช่วยต่อไป
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551
เชิญชม นิทรรศการ "แอ่วสถาปัตย์สองเมืองจากหลวงพระบางสู่ฮานอย"
เชิญชม นิทรรศการ "แอ่วสถาปัตย์สองเมืองจากหลวงพระบางสู่ฮานอย" ระหว่างวันที่ 5 ก.ย. - 5 พ.ย. 51
ณ ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา
ณ ศูนย์สถาปัตยกรรมล้านนา
นิทรรศการครั้งนี้เป็นการนำสิ่งที่ได้พบเห็นจากการเดินทางทัศนศึกษาของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่เมืองหลวงพระบางและฮานอย
มาวิเคราะห์เปรียบเทียบและนำเสนอ ตามประสานักเรียนสถาปัตย์
ถ้ายังไม่มีเวลาไปดู ขอเชิญชมภาพบรรยากาศวันเปิดงานก่อนค่ะ
เป็นบรรยากาศตั้งแต่ก่อนเปิด ตอนแดดร่มลมตกที่กำลังติดตั้งผลงานอยู่
และบรรยากาศหลังจากเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการแล้ว
ซึ่งเป็นบรรยากาศในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช่วง Forum ของวิชา Studio
ที่เมืองหลวงพระบางและฮานอย
มาวิเคราะห์เปรียบเทียบและนำเสนอ ตามประสานักเรียนสถาปัตย์
ถ้ายังไม่มีเวลาไปดู ขอเชิญชมภาพบรรยากาศวันเปิดงานก่อนค่ะ
เป็นบรรยากาศตั้งแต่ก่อนเปิด ตอนแดดร่มลมตกที่กำลังติดตั้งผลงานอยู่
และบรรยากาศหลังจากเปิดนิทรรศการอย่างเป็นทางการแล้ว
ซึ่งเป็นบรรยากาศในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในช่วง Forum ของวิชา Studio
วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551
เหตุเกิดใน studio 2 (15-19 กย.51)
เอารูปที่เกิดขึ้นใน Studio และวัน jury บางส่วนมาแบ่งกันดูค่ะ
เหตุเกิดก่อนส่ง
2-3 วันสุดท้ายก่อนวันส่ง
แวะไปเยี่ยมเยียนที่ Studio
แล้วก็พบว่า Studio อยู่ในบรรยากาศที่น่าสนใจ
เค้าโครงความคิดที่เริ่มก่อรูปร่างเป็นงานบนโต๊ะ
หลายโต๊ะมีกำลังใจในรูปแบบต่างๆ แสดงตัวตนอยู่
เลยอดใจไม่ไหว เดินกลับไปหยิบกล้องถ่ายรูปมาบันทึกภาพไว้
http://picasaweb.google.co.th/brickit/ProductionWeek?authkey=TYnjwcSzB0A#
เหตุเกิดในห้องประตูเหลือง
ในวิชา Studio เคยคุยกันว่ากิจกรรมเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถกำหนด Space ได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ห้องเรียนธรรมดาได้แปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ในการ jury งาน
มีใครรู้สึกถึงความแตกต่างนี้บ้างไหมคะ
เหตุเกิดก่อนส่ง
2-3 วันสุดท้ายก่อนวันส่ง
แวะไปเยี่ยมเยียนที่ Studio
แล้วก็พบว่า Studio อยู่ในบรรยากาศที่น่าสนใจ
เค้าโครงความคิดที่เริ่มก่อรูปร่างเป็นงานบนโต๊ะ
หลายโต๊ะมีกำลังใจในรูปแบบต่างๆ แสดงตัวตนอยู่
เลยอดใจไม่ไหว เดินกลับไปหยิบกล้องถ่ายรูปมาบันทึกภาพไว้
http://picasaweb.google.co.th/brickit/ProductionWeek?authkey=TYnjwcSzB0A#
เหตุเกิดในห้องประตูเหลือง
ในวิชา Studio เคยคุยกันว่ากิจกรรมเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถกำหนด Space ได้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ห้องเรียนธรรมดาได้แปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ในการ jury งาน
มีใครรู้สึกถึงความแตกต่างนี้บ้างไหมคะ
ข้างล่างนี้คือภาพบรรยากาศในวัน jury ที่ห้อง lecture 2 คลิกที่วันที่เพื่อดูรูปค่ะ
วันที่ 15 กย. 51 / วันที่ 16 กย. 51 /วันที่ 17 กย.51 / วันที่ 18 กย.51 /วันที่ 19 กย.51
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)